วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2554

3 หัวข้อ


คำถาม
จากข้อมูลของทั้ง 9 องค์การ ท่านสนใจองค์การใดมากที่สุด เพราะอะไร แล้วหากท่านได้รับมอบหมายในการพัฒนาระบบสารสนเทศองค์การดังกล่าว (องค์การที่ท่านสนใจมากที่สุดนั้น) ท่านคิดว่าจะพัฒนาระบบอะไรเพิ่มเติม พร้อมในเหตุผล
คำตอบ
ผมสนใจมากที่สุดคือ องค์การที่ 5 เป็นธุรกิจผลิตและจำหน่วยสินค้า โครงสร้างองค์การแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สำนักงานและโรงงาน เพราะว่าองค์กร ดังกล่าวได้มีการนำระบบสารสนเทศเข้ามานำใช้พายในองกรแล้วในส่วนใดส่วนหนึ่ง เป็นองกรที่มีระบบการบริหารที่ถือว่ามีความระเอียดพอสมควน
ถ้าผมได้รับมอบหมายในการพัฒนาระบบสารสนเทศขององค์การดังกล่าว ผมจะทำระบบ Web service เพื่อเป็นการเพี่มยอดขาย ลวมทั้งสามาตรู้ได้ถึงยอดขายและข้อมูลของลูกค้า นำใช้ระบบของ GIS เข้ามาช่วยในการติดตาม และ ตรวดสอบสะถารที่ทำการผลิดวัถุดิบเพื่อที่จะมาป้อนเข้าในโรงงาน พัฒนาระบบการจัดชื้แบบออนไล

 ข้อที โครงการด้านระบบสารสนเทศที่อาจจะสนอง พระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ  

คำถาม

        ท่านคิดว่าจะสามารถพัฒนาหรือปรับปรุงระบบสารสนเทศเป็นอย่างแบบใดอย่างไรบ้าง พร้อมให้เหตุผลประกอบ

คำตอบ

จากข้อมูลข้างต้นผมเห็นว่าควนที่จะพัฒนา หรือ ปรับปรุงระบบสารสนเทศ ให้เป็นแบบของ web site ที่เป็นระบบของครังความรู้ และ จะลวมระบบ E-leaning  ไว้ด้วยกัน โดยตัวของระบบนี้จะให้คูเป็นคน update ถานข้อมูนความรู้ได้ทุกเวลาถ้าหากเห็นว่าต้องการ และ นักเรืยนสามาดที่จะเรียนผ่าน Internet ก็ได้ สามาต Download เป็นPDF File ก็ได้ และ จะเชื่อมโยงเข้ากับระบบการศิกษาของจังหวัด และ ทำเป็นบรอกครังความรู้ไว้ใช้สะเพาะครูผู้ที่มีระหัดพะนักงารข้าขาชการแล้วเท่านั้นเพื่อที่จะแลกเปียนแนวความคิดกันได้ 

 ข้อที 3      โครงการที่ตอบสนองนโยบายรัฐบาล ด้านระบบสารสนเทศ

คำถาม

ท่านคิดว่าการพัฒนาระบบสารสนเทศดังกล่าว ควรจะต้องมีระบบ e-service, web-service, front and back office หรือไม่อย่างไร และหากมีควรจะมีอะไรบ้างพร้อมระบุเหตุผลประกอบเพื่อจะได้นำไปปฏิบัติได้ จริง
คำตอบ :
ควรจะต้องมีระบบ e-service, web-service, front and back office เป็นไปได้ควรมีทั้งหมด เพราะแต่ระอย่างก็ล้วนแต่มีความสำคัณ และ สามาตทำให้เกีดประโหยดต่อประชาชนได้ เช่น e-service, web-service จะช่วยให้บริการในด้านข้อมูล ให้ความสะดวกรวดเร็วในการให้บริการประชาชน และสามารถเป็นศูนย์ในการพัฒนา การจัดการเผยแผลข้อมูนของแต่ระจังหวัดให้กับประชาชนได้รับรู้ ชึ่งสามาตอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนและสนองนโยบายรัฐบาล ส่วนระบบของ front and back officeเป็นระบบที่ทำให้เกีดความสะดอกในการบริหารพายในขององค์การนั้น และ สะดอกในการตอบสะหนองความต้องการของผู้ลริโภกได้ ชึ่งทั้งหมดจะเป็นจุดให้มีการพัฒนาในด้านอื่นฯของแต่ระจังหวัดได้ด้วย เป็นต้นเข้ามารองรับ การจัดเก็บ ข้อมูล และการดำเนินงาน เกี่ยวกับเรื่องของ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความสำคัญ และจำเป็น ต่อโครงการศูนย์จัดการความรู้เพื่อพัฒนาจังหวัดอุบลราชธานี และ จังหวัดมุกดาหาร อย่างมาก แต่ในการที่จะพัฒนาระบบให้ได้ดีนั้นก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะเอาข้อมูนได้มากน้อยเพียงใด และ ข้อมูนนั้นเป็นจิงมากน้อยแค่ไหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น